วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

ครั้งแรกที่ได้มาวัดพระธรรมกาย


     สมัยปี พ.ศ. 2541 ครั้งนั่น ย้อนไป 18 ปีที่ผ่านมา ผมยังอายุ 21 ปี ยังเป็นวัยรุ่น เรียนระดับมหาลัยวิทยาลัยสถาบันพระจอมเกล้าแห่งหนึ่ง ในคณะวิศวะกรรมศาสตร์ ระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ซึ่งต้องเรียนหนักมาก ผมก็เป็นเสมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่ไม่เคยเข้าวัดปฏิบัติธรรม แต่ผมเป็นชาวพุทธนะ ตามบัตรประชาชน เพราะสมัยเด็กก็เคยเข้าวัดทำบุญกับพ่อแม่ จึงทำให้มีนิสัยเคารพพระสงฆ์มาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอโตขึ้น ก็แทบไม่เคยจะได้เข้าวัด ส่วนปฏิบัติธรรมนี้แทบไม่เคย ส่วนศีล 5 อาราธนาก็ยังไม่เป็น ยิ่งตักบาตรตอนเช้า 1 ปีอาจจะมีสักครั้ง เรื่องการฟังธรรมนี้ไม่ต้องพูดถึง

     สมัยยังเป็นนักศึกษา ที่ไม่ค่อยได้เข้าวัด ก็จะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันส่วนใหญ่ ชักชวนกันไปในทางเสื่อมทั้งสิ้น ทั้งเที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้า เบียร์ เป็นอาจิณ (อาจิณกรรม) สมัยเรียนเรื่องเหล้า เบียร์เป็นเรื่องปกติ จนทุกคนไม่มีใครสามารถแยกแยะผิดถูกได้ จนมาวันนี้เป็นจุดเปลี่ยน คือ เมาเบียร์อยู่ริมถนนกับเพื่อน ลองต้องคำถามขึ้นมาว่า ทำไมเราต้องกินเหล้าเบียร์ เมาแฮงค์ก็เวียนหัว แล้วเราเกิดมาทำไม มันเป็นคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ? ก็พยายามค้นหาที่พึ่งแต่ไม่มีกัลยาณมิตรหรือผู้รู้แนะนำ ต้องบอกว่าสมัยนั่น ไม่มีอินเตอร์เน็ตนะครับ สมัยก่อนยังใช้เพจลิงค์ กับโทรศัพท์บ้านระบบ Tone สื่อสารกับเพื่อนกันอยู่เลย การที่จะศึกษาค้นคว้าคำถามที่ต้องการคำตอบ ก็ไม่รู้จะเอามาจากไหน

     จุดเปลี่ยนของชีวิต เริ่มต้นจากเสียงโทรศัพท์ ที่ดังขึ้นในวันหนึ่งของกลางปี 2541 " เจริญพรโยม จำอาตมาได้ไหม " เสียงนี้คุ้นมาก แม้นไม่ได้ยินมานาน ท่านคือเพื่อนสมัยเรียนมัธยมแห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว บัดนี้ท่านได้ไปบวชอยู่ที่ วัดพระธรรมกายได้ 1 พรรษาแล้ว ท่านพยายามโทรมาหาหลายครั้ง และชวนให้ไปเยี่ยมเยียนท่านที่วัดพระธรรมกาย แต่ก็บ่ายเบี่ยงไปหลายครั้งเพราะไกล และนั่งรถไปสมัยนั่นลำบาก ต้องขึ้นลงหลายต่อ
   
     จนวันหนึ่ง ด้วยความเกรงใจท่าน และคิดถึงท่านสมัยที่เป็นเพื่อน จึงเดินทางไปพบท่านที่วัดพระธรรมกาย เมื่อใช้เวลานั่งรถอยู่เป็นชั่วโมงก็ถึงวัดพระธรรมกาย พอถึงหน้าวัด ก็ โอโห! ตกกะใจว่า วัดใหญ่มาก ทางเข้าวัดยังเป็นลูกรัง ที่สำคัญจะไปหาท่านที่ไหน ผมนึกว่าวัดเล็กๆ ถามหลวงพี่ไม่กี่องค์คงเจอท่าน แต่ความเป็นจริง ผมต้องเดินเป็นกิโลจากหน้าวัด จนไปถึงอาคารแห่งหนึ่งเรียกอาคารแจ่มจัน มีพระภิกษุสงฆ์ กำลังนั่งปฏิบัติธรรมเป็นร้อยรูป ด้วยความสงบและน่าเคารพอย่างยิ่ง เดินจนกระทั้งเจอพระภิกษุรูปหนึ่งผมก็ถามถึงพระเพื่อน บังเอิญว่าท่านรู้จัก ท่านบอกให้เดินตามท่านมา อยู่ห่างจากนี้เกือบกิโลไปยังหอฉันหลังคาจาก ตลอดทางที่เดินตามท่านไป ท่านเป็นพระที่น่าเลื่อมใสด้วยกริยาท่าทาง และการต้อนรับ จนผมได้ไปเห็นพระเพื่อนที่กำลังขึ้นสวดบนบัลลังก์ก่อนที่จะฉันเพล ระหว่างที่รอพระเพื่อนฉันเพลเสร็จ ผมก็ได้สังเกตุหลายๆอย่าง ว่าวัดนี้ช่างสะอาด และน่าร่มรื่น ร่มเย็น แม้นการต้อนรับจากคนภายในวัดก็ดูสุภาพและเป็นกันเอง ผมก็ได้ร่วมทานอาหารเพลไปด้วย

     หลังฉันเพล ผมได้มีโอกาสไปกราบนมัสการพระเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างออกไปคือ บัดนี้ท่านเป็นพระสงฆ์ ท่านนั่งอยู่ด้านบน ผมนั่งอยู่ด้านล่าง การสนทนาไม่อาจจะเหมือนเพื่อนสมัยเก่า เพราะท่านดูน่าเคารพเป็นอย่างยิ่ง เหมือนผู้ที่ฝึกฝนอบรมมาอย่างดี ท่านได้เล่าเรื่องราวต่างๆจนกระทั่งท่านใดตัดสินใจออกบวช ท่านได้แสดงถึงการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และผมเองเพิ่งรู้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้มีองค์เดียว แต่มีนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน ท่านเล่าจนผมรู้สึกปิติ และท่านยังมอบดวงแก้วดวงหนึ่งให้ไปทำสมาธิเพื่อกำหนดนิมิต

     หลังกลับจากวัด ผมก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม ยังกินเหล้าเบียร์ กับเพื่อนเหมือนเดิม แต่ผมเพิ่มอีกสิ่งหนึ่งคือ ผมไปวัดพระธรรมกายบ่อยขึ้น เพราะอยากไปเยี่ยมพระเพื่อน และฟังธรรมจากท่าน จนกระทั้งผมมีโอกาสได้ฟังธรรม และปฏิบัติธรรมตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ทำรู้ว่า คนเราเกิดมาทำไม! ไม่ใช้เกิดมาใช้ชีวิตแล้วเสียเปล่าเหมือนนกเหมือนกา และได้รู้ว่าการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาดีอย่างไร และสิ่งสำคัญคือเราจะใช้ชีวิตอย่างไรในชาตินี้ถึงจะเกิดมาไม่เสียชาติเกิด จากนั่นเป็นต้นมา ผมก็ปฏิบัติธรรมเจริญภาวนาตามเสียงของหลวงพ่อ จนมีวันหนึ่งใจหยุดเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ภายใน จึงได้รู้ บุญ บาป มีจริง คุณของพระรัตนตรัยมีจริง ตั้งแต่นั่นเป็นต้นมา ผมจึงสามรถล่ะเลิกเหล้าเบียร์ได้อย่างถาวร และยังเป็นที่พึ่งให้แก่ตนเอง และยังเป็นกัลยณมิตรชักชวนคนอื่นให้สั่งสมบุญ คอยแนะนำในทางที่ดี

     จนกระทั่งผมได้ตัดสินใจออกบวช ใช้ชีวิตอย่างลูกผู้ชายในเพศสมณะ ตั้งแต่บวชเรียนมาสมัยนั่น ทำให้รู้ว่า พระที่วัดพระธรรมกายไม่ได้มีความสบายกายเลย แต่เกือบทุกรูปตั้งใจฝึกฝนอบรมตนเองอย่างหนักอยู่ในศีลและวินัยอย่างเคร่งครัด และเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา ( ถ้าต้องการบวชเพื่อหวังความสบาย ผมแนะนำอย่ามาบวชที่นี่เลย ผมว่าฝึก ร.ด. หรือทหาร ยังมีความสบายกว่า ไม่ต้องอยู่ใต้พระธรรมวินัยถึง 227 ข้อ ) ระหว่างที่บวชอบรม ก็นอนน้อย ปฏิบัติธรรมเยอะ และยังทำหน้าที่ช่วยงานพระศาสนาอย่างเต็มกำลัง พร้อมทั้งมีพระอาจารย์และพระพี่เลี้ยงที่ท่านฝึกฝนอบรมตนเองมาอย่างดีเยี่ยม เป็นผู้คอยแนะแนวทางในการประพฤติปฏิบัติธรรม และในขณะที่บวชก็ได้มีโอกาส ศึกษาพระพุทธศาสนา พุทธประวัติ และพระธรรมวินัย จนมีความเข้าใจลึกซึ้งตามลำดับ และมีเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจนขึ้นในการทำความดีและสร้างบารมี บนเส้นทางธรรม

     เมื่อมีโอกาสได้ลาสิกขาออกมา จากวันนั้นถึงวันนี้กว่า 17-18 ปี ที่ได้เข้าวัดพระธรรมกายมา ทำให้รู้ว่า พระที่วัดพระธรรมกาย  เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา สมควรแก่การเคารพและกราบไหว้ วัดพระธรรมกายได้อบรม สร้างเยาวชนของประเทศมากมายให้มีศีลธรรม และยังช่วยกิจกรรมงานพระศาสนา และค้ำจุนวัด 323 วัดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอื่นๆอีกมากมาย

    ผมอยากจะบอกว่าหลวงพ่อธัมมชโย ท่านได้สอนให้คนให้เป็นคนดีมากมาย และให้เป็นคนที่ชาวโลกต้องการ ผมขอกราบขอบพระคุณคุณยายอาจารย์มหารัตนะอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย และหลวงพ่อทัตตชีโว ที่ได้สร้างวัด สร้างพระ สร้างคนดีมากมายไว้ให้กับประเทศชาติ และโลกใบนี้ครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงครับ

19 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

    ตอบลบ
  3. ชีวิตการบวช ช่างทรงคุณค่ายิ่งนัก สาธุด้วยครับ

    ตอบลบ
  4. เป็นแบบอย่างที่ดีแด่เยาวชนคนรุ่นใหม่ น่าอนุโมทนาสาธุการ สาธุๆๆ

    ตอบลบ
  5. อนุโมทนาสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  6. เป็นต้นแบบที่ดีกับชาวโลกค่ะ ขอกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  7. เป็นต้นแบบที่ดีกับชาวโลกค่ะ ขอกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

    ตอบลบ
  8. เขียนได้ดีมาก อยากให้เขียนต่อไป นำพาประสบการณ์ดีๆ ให้ถึงกับทุกๆ คน หลายๆ คนก็คงจะมีประสบการณ์คล้ายๆ แบบนี้ในบางแง่มุม จะช่วยแชร์ต่อไปด้วย สาธุๆ

    ตอบลบ
  9. กราบอนุโมทนาบุญทุกๆบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  10. กราบอนุโมทนาบุญทุกๆบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

    ตอบลบ
  11. vegus168

    เป็นบทความที่ดีมากๆเลยครับ

    ufa88

    ตอบลบ